ขอบพลาสติก, ล้อ, ขอบยาง ... อื่นๆ เลยอยากลองมาใช้ดู ที่ศึกษามา งานจะออกใสๆ สะท้อนๆ
จะเป็นอย่างเขาว่าไว้ไหม?
ที่มองต่อไปคือจะเอาไปเป็นตัวจบเวลาไปขัดรถให้คนอื่นด้วยครับ สะดวกดี ประหยัดเวลา อิอิ
เนื่องจากเมื่อสิ้นเดือนเพิ่งจัดหนักไป อาทิตย์นี้เลย เน้น glaze เพื่อให้ผิวเนียนก่อนลง opti-seal เลยครับ
Glaze : PB Black hole = รถสีเข้มควรมี glaze สักตัวเก็บไว้ครับ เอาไว้กลบๆๆๆ รอย หมดแล้วว่าจะหา WG finish glaze มาลองครับ
Protect : OPT Opti-seal ( 3 coats ) = พระเอกของงาน
Detailer : OPT Instant Detailer & Gloss enhancer = ลื่น หอม ใช้งานง่ายครับ ใช้เก็บฝุ่นระหว่าง coat
วิธีการลง
- จากที่ลองใช้ฟองน้ำแบบหุ้มไมโครไฟเบอร์ กับ ฟองน้ำเหลือง ผมเลือกใช้ ฟองน้ำเหลือง ครับ เพราะไม่ดูดน้ำยาและกระจายน้ำยาดีกว่าครับ
- การลงทั้งแบบ ซ้าย-ขวา/บน-ล่าง กับ วนๆๆ จากการลงทั้งสองแบบผมเลือกแบบ วน ครับ เพราะ การกระจายน้ำยาทำได้ทั่วกว่า กระจายน้ำยาเสมอกว่า
พื้นที่ทำได้มากกว่า ถ้าลงแบบสไลด์เหมือนน้ำยาจะขาดๆ หายๆ ครับ
- การลง ง่ายๆ ฉีดน้ำยาลงบนฟองน้ำ 2 ปี๊ด จากนั่นก็ลงเหมือนลงแว็กซ์ ห้ามกด จุดไหนเห็นว่าน้ำยาเยอะไปให้รีบกลับมาซ้ำ
จากนั้นเมื่อเห็นว่าน้ำยาเริ่มหมด โดยสังเกตุจากน้ำยาบนสีรถที่เราลงไป ก็ฉีดๆๆ ที่ฟองน้ำเหมือนเดิมครับ
- ปกติน้ำยาตัวนี้ เน้นการลงบางๆ ตัวน้ำยามันจะละเหยไปเองเมื่อลงเสร็จ ถ้าจุดไหนหนาไปจะเห็นเป็น haze ให้เอาผ้าไมโครฯ ลูบๆ โดยปล่อยตามแรงผ้าครับ ไม่ต้องกด
แค่นี้ก็เนียนแล้วครับ
- ผมลงต่อโค้ด ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วซ้ำครับ โค้ดสุดท้ายข้ามคืน
- ลงตามขอบยาง, พลาสติก ได้หมดครับ เรียบเสมอเหมือนลงบนผิวรถ ผมใช้ OPC ทำความสะอาดก่อนลง
ภาพหลังลงเสร็จวันแรก
บ่ายๆ ของวันที่ลงเสร็จวันแรก
วันที่สอง
Water beading
Water Sheeting
อันนี้เย็นของวันแรกที่ลงไปครับ อาจจะไม่รีดดีเท่า coating แต่ก็ค่อนข้างทำได้ดีครับ
เดี๋ยวไว้สัปดาห์หน้าจะถ่ายมาให้ดูไหม่ครับ
ความคิดเห็น
- ส่วนตัวคิดว่าคุ้มค่ามากครับกับผลงาน เมื่อเทียบกับราคา ขวดนึงคิดว่าใช้กันยาวๆ เลย
- งานใส สะท้อนมากครับ เห็นได้ชัดดูจากรูปครับ
- ลงง่าย ใช้งานง่าย
- สามารถลงงานกับชิ้นงานได้หลากหลาย
- สำคัญเลย ควรเตรียมผิวดีๆ เพราะน้ำยาตัวนี้ไม่กลบรอยเลย
- การรีดน้ำใช้ได้เลยครับ แต่เม็ดน้ำไม่ค่อยสวย
- ความทนเดี๋ยวค่อยมาว่ากัน 555+
